คำถามมากมายเกิดขึ้นบนสื่อโซเชียลมีเดียทั่วโลกว่าทำไมนักเตะหลายคนที่เคยเล่นดีเมื่ออยู่ภายใต้การคุมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงไม่สามารถแสดงความเก่งบนเวทีทีมชาติได้ ซึ่งก็ไม่น่าใช่เรื่องแปลกใจเท่าไรด้วยเหตุผลหลายประการดังนี้ ข้อที่ 1 คือการโดนจับไปเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดเหมือนตอนเล่นกับสโมสร ยกตัวอย่างได้ชัดเจนก็คือ โฟเด้น ที่เราแทบจะนับจำนวนเกมที่เจ้าตัวต้องเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายให้กับ แมนฯ ซิตี้ ได้เลย แล้วจะมาให้ฟอร์มดีให้กับทีมชาติได้อย่างไรในเมื่อจุดที่เขาเล่นได้ดีที่สุดคือตรงกลางและด้านขวา ข้อที่ 2 คือความเก่งของผู้จัดการทีม แม้หลายคนจะด้อยค่าว่า เป๊ป ฝีมือธรรมดามากแต่โชคดีที่ได้คุมทีมที่มีสตาร์คับคั่ง จึงทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้เหมือนในปัจจุบัน แต่ความจริงได้ถูกเปิดเผยแล้วด้วยผลงานของนักเตะที่มีฟอร์มการเล่นระหว่างสโมสรและทีมชาติที่ต่างกันเหมือนคนละคน นั่นก็แปลว่า กวาร์ดิโอล่า ทำให้ผู้เล่นแสดงศักยภาพได้แบบเต็มความสามารถที่แม้แต่ผู้จัดการทีมชาติก็ไม่สามารถเอาออกมาได้ ข้อที่ 3 คือคุณภาพเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ส่งเสริมนักเตะได้เท่าในสโมสรคนที่เห็นได้ชัดสุดก็คือ เควิน เดอ บรอยน์ ผมกล้าพูดเลยว่า ถ้ากองหน้าของ เบลเยี่ยม เก่งกว่า โรเมลู ลูกากู พวกเขาคงไปได้ไกลกว่านี้ ลองจินตนาการว่ายุค โกลเดน เจเนอเรชั่น ที่มีทั้ง คิงเคฟ และ เอเดน อาซาร์ ในแนวรุกแล้วมีกองหน้าแบบ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ พวกเขาจะไปได้ไกลแค่ในเมื่อต้องเล่นฟุตบอลรายการใหญ่ของประเทศ เมื่อมีหลายเหตุผลที่รองรับ ก็ไม่ควรมีนักเตะคนไหนที่ถูกด้อยค่าความสามารถเพราะการที่พวกเขาได้เล่นกับ เรือใบสีฟ้า นั่นก็แปลว่าพวกเขามีคุณสมบัติเพียงพอในสายตาของ เป๊ป แล้ว และก็เก่งพอที่จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่พาทีมคว้าแชมป์ได้เช่นกัน ในฐานะแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ ต้องบอกว่าสุดท้ายแล้วตอนจบของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 จะเป็นอย่างไร ใครจะเป็นผู้ชนะ ใครจะฟอร์มดีหรือไม่ดี ผมคงไม่สนใจเท่าไร เพราะสิ่งที่ผมสนใจคืออย่าให้มีนักเตะคนไหนได้รับบาดเจ็บหนักกลับมาก็พอ…

เขียนโดย The Lite Team.

LS Sport ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชม.